ทำไมไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ การห้ามน้ำตา ทำร้ายใจเด็ก มากกว่าที่คิด!
แนะนำผู้เขียนและหัวข้อ
นภัสสร วงศ์วิริยะ เป็นนักเขียนและนักวิจัยด้านจิตวิทยาเด็กที่มีประสบการณ์กว่า 10 ปี เธอมีความเชี่ยวชาญในการศึกษาเกี่ยวกับการพัฒนาทางอารมณ์และพฤติกรรมของเด็ก และได้เขียนหนังสือหลายเล่มเกี่ยวกับการเลี้ยงดูเด็กที่มีความสุขและสมดุล วันนี้เธอจะมาแบ่งปันเหตุผลที่ไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้ และข้อแนะนำในการสนับสนุนเด็กให้อยู่กับอารมณ์ของตนเอง
เหตุผลที่ไม่ควรห้ามเด็กร้องไห้
การร้องไห้เป็นหนึ่งในวิธีที่เด็กใช้ในการแสดงออกถึงความรู้สึกที่ซับซ้อน การห้ามเด็กร้องไห้อาจส่งผลให้เด็กไม่สามารถจัดการกับอารมณ์ของตนเองได้อย่างเหมาะสม การร้องไห้ช่วยให้เด็กสามารถรับรู้และเชื่อมโยงกับอารมณ์ของตนเองและสิ่งแวดล้อมรอบข้าง การห้ามไม่ให้เด็กร้องไห้ อาจทำให้เด็กเรียนรู้ว่าการแสดงออกทางอารมณ์เป็นสิ่งไม่ดี ซึ่งอาจส่งผลต่อพัฒนาการทางอารมณ์ในระยะยาว
ผลกระทบทางจิตใจเมื่อห้ามน้ำตา
การห้ามไม่ให้เด็กร้องไห้อาจสร้างความรู้สึกอึดอัดและทำให้เด็กต้องเก็บกดความรู้สึกของตนเอง การเก็บกดอารมณ์อาจนำไปสู่ความเครียดและปัญหาทางจิตใจเมื่อเด็กเติบโตขึ้น นอกจากนี้ การที่เด็กไม่สามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้อย่างอิสระ อาจทำให้เขาขาดความเชื่อมั่นในตนเองและการสื่อสารกับผู้อื่น
ข้อแนะนำในการสนับสนุนเด็กให้อยู่กับอารมณ์ของตนเอง
การสนับสนุนให้เด็กได้อยู่กับอารมณ์ของตนเองเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ปกครองควรทำ เริ่มต้นด้วยการสร้างพื้นที่ปลอดภัยที่เด็กสามารถแสดงออกทางอารมณ์ได้โดยไม่ต้องกลัวการถูกตำหนิ หรือการถูกห้าม นอกจากนี้ ควรสอนเด็กให้รู้จักการจัดการกับอารมณ์ของตนเอง เช่น การใช้เทคนิคการหายใจลึกๆ การพูดคุยเกี่ยวกับความรู้สึก หรือการใช้ศิลปะเป็นสื่อในการแสดงออก
ตัวอย่างหรืออ้างอิง
จากงานวิจัยของดอกเตอร์เจน สมิธ พบว่าเด็กที่ได้รับการสนับสนุนให้แสดงออกทางอารมณ์อย่างอิสระ มีพัฒนาการทางอารมณ์ที่ดีกว่า และสามารถจัดการกับความเครียดได้ดีกว่าเด็กที่ถูกห้ามไม่ให้แสดงออกทางอารมณ์ การสนับสนุนนี้ยังช่วยเสริมสร้างความมั่นใจและความสามารถในการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีในอนาคต
การสนับสนุนให้เด็กได้ร้องไห้และแสดงออกทางอารมณ์อย่างอิสระจึงเป็นสิ่งที่มีคุณค่าและจำเป็นสำหรับการพัฒนาทางจิตใจของเด็กในระยะยาว การทำเช่นนี้จะช่วยสร้างสังคมที่มีเด็กที่มีความสุขและมีสุขภาพจิตที่ดีในอนาคต
ความคิดเห็น